วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วัดพระธาตุพนมวรวิหาร



    วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง
ชั้นเอก ตั้งอยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม
ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะ
เป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อด้วยอิฐ ก้วางด้านละ 12.33
เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมรอบองค์พระธาตุสี่ชั้น องค์
พระธาตุตั้งอยู่บนเนินดินสูงกว่าพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร
 

  






    ประวัติ
ตามตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ท้าวพญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ได้แก่ พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหานหลวง พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย พญาจุลมณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลมณีพรหมทัต พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินทปัตถนคร และพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ได้สร้างอูบมุงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ ตามพุทธพยากรณ์ โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ (อิฐที่ไม่ได้เผา) ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอูบมุง(อุโมงค์) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า เมื่อก่อสร้างด้วยดินดิบเสร็จแล้วจึงก่อไฟเผาพระธาตุ เป็นเวลาหลายวันจนอิฐแห้งสนิทจรดกัน


    11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนม
ได้ถล่มลงมา ด้วยเหตุที่มีฝนตกหนักพายุพัดแรงติดต่อมา
หลายวัน ประกอบกับความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ พระธาตุ
พนมจึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ สร้างความสะเทือนใจให้ชาว
นครพนมและคนไทยทั่วไป รวมทั้งชาวลาว เป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุที่เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองมานาน

    ประชาชนทั่วทั้งประเทศได้บริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบเดิม การก่อสร้างเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นที่บรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม